ชัชชาติ ร่อนจดหมายถึงจังหวัดใกล้เคียง คุมเข้มแหล่งกำเนิดมลพิษ ป้องกัน PM 2.5 คาด 28-29 ม.ค. สถานการณ์ PM 2.5 คลี่คลาย นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ กล่าวถึงสถานการณ์ PM 2.5 ว่า จากการพยากรณ์ในวันที่ 26-27 ม.ค. 66 มีค่าฝุ่นสูงขึ้น เนื่องจากอากาศที่กดลงและมีลมต่ำ แต่คาดว่า วันที่ 28-29 ม.ค. 66 สถานการณ์ฝุ่นจะคลี่คลาย
ปัจจุบัน กทม.มีมาตรการเร่งกำจัดแหล่งกำเนิดมลพิษ
ซึ่งในช่วงนี้จะเห็นว่ามีการเผาชีวมวลที่เพิ่มสูงขึ้น จึงได้มีการส่งจดหมายถึงจังหวัดข้างเคียง เพื่อให้ช่วยกันกำกับดูแลในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันในพื้นที่กรุงเทพฯ ไฟไหม้หญ้าและการเผาขยะของคนไร้บ้าน จึงต้องกำชับเรื่องนี้ให้มากขึ้น
นอกจากนี้ได้มีการขอความร่วมมือทำงานแบบ Work from Home ซึ่งมีบริษัทที่ให้ความร่วมมือประมาณ 30 กว่าแห่ง ทั้งนี้ ทุกฝ่ายยังต้องร่วมมือกันในเรื่องของการควบคุมดูแลที่แหล่งกำเนิดฝุ่น และการเตรียมตัวในการรับมือกับฝุ่นด้วย
ส่วนเรื่องการรับมือจากนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ที่กำลังเข้ามาในประเทศไทยในช่วงนี้ นั้น การที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามานั้นถือเป็นเรื่องที่ดี โดยกทม.ได้มีการมอนิเตอร์อยู่ตลอด สำหรับนักท่องเที่ยวทุก ๆ ประเทศที่เข้ามาในไทย
ส่วนตอนนี้ตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ของเราก็ต่ำกว่า 100 คนต่อวัน แต่กทม.ได้เตรียมพร้อม ทั้งในเรื่องของวัคซีนป้องกันโควิด-19 และโรงพยาบาลต่างๆ ภาพรวมจึงไม่เป็นที่น่ากังวล เพราะนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่ไม่ได้เข้ารับบริการในสถานพยาบาลของกทม. เนื่องจากมีประกันจึงเข้ารับบริการจากโรงพยาบาลเอกชนหรือโรงพยาบาลอื่นที่รองรับอยู่
อย่างไรก็ตาม หากนักท่องเที่ยวตรวจ RT-PCR แล้วยังกลับประเทศไม่ได้ ก็จะถูกกักกันอยู่ใน Hospitel หรือโรงแรมที่เข้าพัก ซึ่งเรามีมาตรการดูแลอยู่ จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวล คาดว่าสามารถรับมือได้
ด้านที่จอดรถ ที่จอดรถทัวร์ของสถานที่ท่องเที่ยวจะเพียงพอหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ ในส่วนของ กทม. อาจจะมีรถ Shuttle Bus หรือ Feeder ให้บริการ ส่วนพื้นที่ต่างๆ เราได้ทยอยปรับปรุงอยู่ตลอด เช่น ที่สนามหลวง เราได้มีการทำอุโมงค์ ซึ่งช่วยลดความแออัดจากข้างบน เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวยังไม่มากเท่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงน่าจะพอรับมือได้
จตุพร แฉดีลลับ เตือนพา ทักษิณ กลับบ้านโดยไม่เข้าคุก นำไปสู่ความพินาศ แนะอดีตนายกฯเข้าคุกไปอย่างสง่างามจะดีกว่า นาย จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดงไลฟ์เฟซบุ๊ก ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ความจริง…เป็นสิ่งไม่ตาย” โดยในช่วงหนึ่งของรายการได้มีการพูดถึง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะฝีปากก่อนหน้านี้ นอกจากนี้นาย จตุพร ยังได้แฉดีลลับอีกด้วย
นาย จตุพร กล่าวว่า การส่งสัญญาณว่า ทักษิณ จะกลับประเทศไทย จะจุดเชื้อวิกฤตปัญหาให้บ้านเมืองเสียหาย พร้อมวิเคราะห์ว่า ที่ชัดเจนในวิกฤตแรกคงเกิดจากกรณีนายทักษิณประกาศจะใช้ใจอย่างเดียวเพื่อกลับบ้าน แต่การกลับมา เมื่อศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว จึงไม่มีช่องทางอื่นนอกจากเข้าเรือนจำ ดังนั้น การประกาศกลับบ้านโดยไม่ใช้กฎหมายจึงเป็นการปลุกความคิดให้นำไปสู่การล้มกระดานได้อย่างง่ายดายอีกรอบหนึ่ง
ตามคาด พปชร.เคาะ ‘บิ๊กป้อม’ แคนดิเดตนายกฯ ศูนย์รวมใจลูกพรรค
พลังประชารัฐ เคาะ ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หนึ่งเดียวศูนย์รวมใจลูกพรรค ไพบูลย์ นิติตะวัน มั่นใจได้เป็นนายกคนที่ 30 เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (27 ม.ค.66) ที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐได้มีมติเห็นชอบตามที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคเสนอชื่อ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นบุคคลที่พรรค พปชร.เสนอให้ได้รับการพิจารณาเป็นนายกฯ โดยเสนอเพียงชื่อเดียว สำหรับขั้นตอนจากนี้จะมีการเสนอต่อที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคในสัปดาห์หน้าเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป
ทั้งนี้ ในที่ประชุมของพรรคยังได้มีการแจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงการแก้ไขข้อบังคับพรรคต่างๆ รวมถึงมีการแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า มีกรรมการบริหารพรรคลาออก 3 คน คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ลาออกจากผอ.พรรค นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ลาออกจาก กก.บห. และนายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ ลาออกจากนายทะเบียนพรรค จากนั้นได้มีการเสนอให้สมาชิกลงมติเลือกกรรมการบริหารพรรค จำนวน 3 คน ทดแทนตำแหน่งที่ว่าง คือ พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เป็นนายทะเบียนพรรค นายสกลธี ภัททิยกุล นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ และนายอภิชัย เตชะอุบล เป็นกรรมการบริหารพรรค
ด้าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า วันนี้ต้องถือว่า พปชร.เราก้าวนำในพื้นที่ เราเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ก่อนทุกพรรค โดยเสนอเพียงชื่อเดียว ซึ่งพวกเราหมายมั่นปั้นมือกันทุกคน เราจะต้องร่วมแรงร่วมใจ หรือเอาใจบันดาลแรง ที่จะทำให้แคนดิเดตนายกฯ พปชร.ได้เป็นนายกฯคนที่ 30 และจากการที่เราเสนอจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เราก็ได้เป็นนายกฯ คราวนี้เรามีความเชื่อมั่น 100% หรือ 1,000% ก็ว่าได้ว่า หัวหน้าพรรค พปชร.จะได้เป็นนายกฯแน่นอน
นอกจากนี้ ขอแจ้งให้สมาชิกพรรค เข้าร่วมงานระดมทุนในวันที่ 30 ม.ค.อย่างพร้อมเพรียง ห้ามขาด ขณะเดียวกัน นโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะนโยบายแรกคือ บัตรประชารัฐ 700 บาท และจากสโลแกนของ พปชร. เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาพื้นที่ อยากให้ทุกคนช่วยกันรณรงค์ ช่วยกันไปหาเสียงกับประชาชน จะใช้คำว่า 700 ทั่วไทย หรือจะใช้คำว่า ป้อม 700 หัวหน้าพรรคไม่ได้ขัดข้อง
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า